Menu
Home
Education
[คอร์สเรียน Advance]-Advance Elliott Wave
[คอร์สเริ่มต้น]-ปูพื้นฐานก้าวไปสู่ Elliott Wave
Articles
ผลงาน
วิทยากร
ELLIOTT WAVE QUESTIONS
Q&A
หน้าแรก
Q&A
ฝากคำถามกับ Smith and ElliottWave
เลือกหุ้นที่สนใจก่อนจะซื้อ แล้วค่อยใช้วิธีการนี้พิจารณาในการซื้อใช่ไหมคะ
เลือกหุ้นที่สนใจก่อนจะซื้อ แล้วค่อยใช้วิธีการนี้พิจารณาในการซื้อใช่ไหมคะ
ย้อนกลับ
หน้าแรก
Q&A
ฝากคำถามกับ Smith and ElliottWave
เลือกหุ้นที่สนใจก่อนจะซื้อ แล้วค่อยใช้วิธีการนี้พิจารณาในการซื้อใช่ไหมคะ
โพสต์กระทู้ใหม่
เลือกหุ้นที่สนใจก่อนจะซื้อ แล้วค่อยใช้วิธีการนี้พิจารณาในการซื้อใช่ไหมคะ
วันที่สมัคร :
11 Nov 2020
กระทู้ :
55
ข้อคิดเห็น :
0
ขั้นตอนการซื้อหุ้น นะครับ มันไม่ได้ง่ายเหมือนกับการเราไปเดินเลือกซื้อของ หรือ มีคนแนะนำเรามาแล้วเราซื้อเลยครับ ขั้นตอนการเลือกลงทุน มีดังต่อไปนี้
1. เลือกหุ้นที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือว่าเป็นขาลง (ในกรณีที่จะขายมาและซื้อทีหลัง) ซึ่งการดูแนวโน้มไม่ยากแต่จังหวะในการซื้อขายจะยากกว่ามาก เพราะว่าถ้าซื้อแล้วจะไม่มีโอกาสในการเปลี่ยนใจ
2. ตั้งเป้าหมายในการทำกำไร
3. ตั้งเป้าหมายในการขาดทุน
4. คำนวณสัดส่วนการทำกำไรและขาดทุน ในกรณีที่สัดส่วนขาดทุนมากกว่ากำไร ไม่ต้องทำการซื้อขาย
5. คำนวนเงินที่จะใช้ในการลงทุน โดยส่วนมากแล้วจะวางจำนวนเงินไม่เกิน 1% ของทั้ง Port ต่อการลงทุน 1 ครั้ง
6. หาจังหว่ะในการเข้าซื้อ โดยแบ่งเป็นไม้ๆ ไม่ใช้ซื้อครั้งเดียวหมดทั้งก้อน
7. ถ้าราคาเป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ ค่อยเพิ่มจำนวนเงินในการลงทุน
8. เฝ้าดูราคาว่าเป็นไปตามแนวโน้มที่วางแผนไว้ไหม
9. ในกรณีที่ใช้ คลื่น Elliott Wave ในการหาเป้าหมายการทำกำไร ต้องมองเป้าหมาย 2 ด้านคือ เป้าหมายของราคา และเป้าหมายด้านเวลา หมายความว่า ในทฤษฎีนี้สามารถกำหนดได้ว่า เมื่อราคาถึงราคาที่เท่าไร่ หรือ ระยะเวลาเท่าไร่ ต้องทำกำไรในทันที ถ้าหากถึงเป้าหมายด้านเวลาแล้วแต่ราคายังไปไม่ถึง ก็ให้ทำกำไรทันทีเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดรูปแบบที่เรียกว่า Failure หรือว่าราคาไปไม่ถึงเป้า
10. กรณีที่ราคากำลังเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมาย ให้เลื่อนจุด Stoploss ไปเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ราคาไปไม่ถึงเป้าหมายแล้วมีการย้อนกลับมา จะกลายเป็นขาดทุน และไม่ได้กำไรอะไรเลย
11. ช่วงที่ราคากำลังขึ้นไปอยู่นั้น ต้องมีการยืนยันรูปแบบเป็ฯช่วงๆว่า เป็นรูปแบบที่เราคิดว่าใช่ แต่ไม่ใช้เดารูปแบบล่วงหน้า หมายความว่าต้องมีการยืนยันรูปบบนั้นจากราคาของตัวมันเอง
สิ่งที่ต้องจำไว้ให้ดีที่สุดคือ เป้าหมายของราคาอยู่ที่เดิมเสมอ แต่จังหว่ะในการเข้าซื้อแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนทำการซื้อขายจริงต้องมีการคำนวนจำนวนเงินในการเข้าซื้อทุกครั้ง และในแต่ละครั้งที่เข้าซื้อไม่ว่าหุ้นตัวไหน จำนวนเงินจะไม่เท่ากันตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับราคาตอนที่จะกดซื้อ
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com
1. เลือกหุ้นที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือว่าเป็นขาลง (ในกรณีที่จะขายมาและซื้อทีหลัง) ซึ่งการดูแนวโน้มไม่ยากแต่จังหวะในการซื้อขายจะยากกว่ามาก เพราะว่าถ้าซื้อแล้วจะไม่มีโอกาสในการเปลี่ยนใจ
2. ตั้งเป้าหมายในการทำกำไร
3. ตั้งเป้าหมายในการขาดทุน
4. คำนวณสัดส่วนการทำกำไรและขาดทุน ในกรณีที่สัดส่วนขาดทุนมากกว่ากำไร ไม่ต้องทำการซื้อขาย
5. คำนวนเงินที่จะใช้ในการลงทุน โดยส่วนมากแล้วจะวางจำนวนเงินไม่เกิน 1% ของทั้ง Port ต่อการลงทุน 1 ครั้ง
6. หาจังหว่ะในการเข้าซื้อ โดยแบ่งเป็นไม้ๆ ไม่ใช้ซื้อครั้งเดียวหมดทั้งก้อน
7. ถ้าราคาเป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ ค่อยเพิ่มจำนวนเงินในการลงทุน
8. เฝ้าดูราคาว่าเป็นไปตามแนวโน้มที่วางแผนไว้ไหม
9. ในกรณีที่ใช้ คลื่น Elliott Wave ในการหาเป้าหมายการทำกำไร ต้องมองเป้าหมาย 2 ด้านคือ เป้าหมายของราคา และเป้าหมายด้านเวลา หมายความว่า ในทฤษฎีนี้สามารถกำหนดได้ว่า เมื่อราคาถึงราคาที่เท่าไร่ หรือ ระยะเวลาเท่าไร่ ต้องทำกำไรในทันที ถ้าหากถึงเป้าหมายด้านเวลาแล้วแต่ราคายังไปไม่ถึง ก็ให้ทำกำไรทันทีเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดรูปแบบที่เรียกว่า Failure หรือว่าราคาไปไม่ถึงเป้า
10. กรณีที่ราคากำลังเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมาย ให้เลื่อนจุด Stoploss ไปเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ราคาไปไม่ถึงเป้าหมายแล้วมีการย้อนกลับมา จะกลายเป็นขาดทุน และไม่ได้กำไรอะไรเลย
11. ช่วงที่ราคากำลังขึ้นไปอยู่นั้น ต้องมีการยืนยันรูปแบบเป็ฯช่วงๆว่า เป็นรูปแบบที่เราคิดว่าใช่ แต่ไม่ใช้เดารูปแบบล่วงหน้า หมายความว่าต้องมีการยืนยันรูปบบนั้นจากราคาของตัวมันเอง
สิ่งที่ต้องจำไว้ให้ดีที่สุดคือ เป้าหมายของราคาอยู่ที่เดิมเสมอ แต่จังหว่ะในการเข้าซื้อแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนทำการซื้อขายจริงต้องมีการคำนวนจำนวนเงินในการเข้าซื้อทุกครั้ง และในแต่ละครั้งที่เข้าซื้อไม่ว่าหุ้นตัวไหน จำนวนเงินจะไม่เท่ากันตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับราคาตอนที่จะกดซื้อ