โดย Smith and Elliott Wave เจ้าของฉายา คาดการณ์เป้าหมายผิดไม่เกิน 2 จุด
"จะดีแค่ไหนถ้าเราเขียนแผนได้เอง ราคาเป้าหมายจะเดินทางตามแผนที่เราวางไว้"
เนื้อหามากกว่า 11 ชั่วโมง มากที่สุดในตลาด จ่ายหนเดียวจบไม่มีภาคต่อ
หาสินทรัพย์เด็ด กำไรเกิน 100%
วิเคราะห์หาเป้าหมายของราคา
ไม่หลงทิศไม่หลงทาง มีแผนชี้นำ
เรียนจนกว่าจะเก่ง ไม่เก่งเรียนซ้ำได้ตลอดชีพ
📌 หลักสูตรนี้เหมาะกับ 📌
1.การใช้โปรแกรมTradingViewและการใช้เครื่องมือต่างๆที่จำเป็น (25นาที)
ในปัจจุบันโปรแกรม Trading View เป็น app ดูหุ้นที่ให้บริการฟรีซึ่งสามารถดูได้ผ่านทาง Windows IOS Ipad และ NotePad ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถใช้บริการข้อมูลเรียวทาม (Realtime)ได้ฟรีจากหลายๆโบรกเกอร์ นักลงทุนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีการใช้งาน และสร้างความคุ้นเคยกับ App นี้ โดยผู้บรรยายจะได้สอนวิธีการใช้งาน ตั่งแต่พื้นฐานจนระดับสูง เพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้งานได้เองจนคล่องแคล่ว และคุ้นเคยกับเครื่องมือ
2.ข้อแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30 นาที)
ก่อนนักลงทุนจะรู้ว่าตัวเองชอบการวิเคราะห์ด้านไหน นักลงทุนสมควรที่จะรู้ว่าข้อแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์ทางเทคนิคว่ามีข้อแตกต่างอย่างไรบ้างและสามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ด้านนั้น โดยในบทนี้ผู้บรรยายได้นำแนวคิดของอาจารย์ชื่อดังมาประกอบคำบรรยาย
ในปัจจุบันมีรูปแบบของ Chart อยู่ค่อนข้างมาก ตามสมัย ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4-5 แบบ ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เราควรเรียนรู้ถึงข้อดีและข้อเสียของทุกๆชารจ์เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ตามแบบที่เราชอบ เพื่อนำมาวิเคราะห์ทิศทางของตลาดได้อย่างแม่นยำ
สัญญาณแท่งเทียนคือสัญญาณที่รวดเร็วที่สุด และมีความแม่นยำสูง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสัญญาณแท่งเทียนแบบไหนเป็นสัญญาณการกลับตัวหรือเป็นสัญญาณที่บอกว่าราคายังจะไปต่อ ผู้บรรยายได้ยกตัวอย่างลักษณะแท่งเทียนที่สำคัญ นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องจำลักษณะทั้งหมดนี้ไว้ เมื่อเกิดแท่งเทียนลักษณะดังกล่าวจะสามารถตัดสินใจได้ในทันที
การดูแนวโน้มของหุ้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากนักลงทุนเพื่อดูเทรนหรือแนวโน้มของราคา โดยปรกติแล้วการดูแนวโน้มของราคาจะสามารถดูได้ง่ายถ้าหากย้อนหลังกลับไปดู แต่ถ้าหากดูราคาแนวโน้มปัจจุบันหรืออนาคตเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีตัวแปรหลายด้าน ถ้านักลงทุนรู้รูปแบบของแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นักลงทุนก็สามารถทำกำไรได้
เครื่องมือที่ใช้บ่อยที่สุดในการดูแนวโน้มของตลาดหุ้นคือการลากเส้น แต่ว่าจะลากเส้นอย่างไรที่จะสะท้อนถึงแนวโน้มราคาได้ถูกต้องและแม่นยำที่สุด เมื่อลากเส้นแล้วนักลงทุนจำเป็นที่จะต้องรู้จุดเข้าจุดออกและจุดขาดทุน โดยเนื้อหาในบทนี้จะเน้นไปในเรื่องวิธีการยืนยันรูปแบบราคาและการหาเป้าการทำกำไรจากการลากเส้นแนวโน้ม
รูปแบบกราฟหรือว่า Chart Pattern ในตลาดมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน เป้าหมายของราคาจะไม่เท่ากัน และการยืนยันรูปแบบของราคาก่อนที่ราคาจะไปถึงเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผู้บรรยายได้ใช้ประสบการณ์ในการเทรดหุ้นมามากกว่า 10 ปี พัฒนาจุดยืนยันลักษณะกราฟเพื่อให้นักทุนได้ทราบก่อนที่จะเกิดรูปแบบนั้นๆ
Gap หรือว่าช่วงว่างของราคาในตลาดมีอยู่ 4 แบบ แต่ละแบบนั้นให้ความหมายที่แตกต่างกัน บางรูปแบบถือว่าเป็นจุดที่นักลงทุนจำเป็นต้องเข้าลงทุนทันที บางรูปแบบเป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนเทรนจากขาขึ้นเป็นขาลง นักลงทุนจึงจำเป็นที่จะต้องจำลักษณะของรูปแบบ Gap ให้ได้ทั้งหมดพร้อมกับวิธีการใช้งาน ผู้บรรยายได้นำตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงมาประกอบการบรรยาย
เรื่องลําดับตัวเลขฟิโบนาชี่และการใช้งานถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในซื้อขายสินทรัพย์โดยในคลิปนี้จะเน้นไปยังวิธีการใช้งานและหาเป้าหมายของราคา เรื่องฟิโบนาชี่ยังสามารถนำไปใช้ในทฤษฎีอื่นได้เช่น Elliott Wave ซึ่งจะทำให้ได้เป้าหมายราคาที่แม่นยำมากขึ้น
แนวรับและแนวต้านในปัจจุบันมีอยู่หลายแบบ และแต่ละรูปแบบเกิดขึ้นในลักษณะที่แตกต่างกัน ผู้บรรยายได้นำตัวอย่างการใช้แนวรับและแนวต้าน ในหุ้นจริงในทุกรูปแบบ เพื่อให้นักลงทุนได้เรียนรู้และสามารถใช้งานได้จริง
การหาจังหวะการซื้อขายด้วยวิธีการดูเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ถือว่าเป็นการใช้เครื่องมือที่นิยมมากโดยเฉพาะคนที่พึ่งเริ่มต้นลงทุนในตลากหลักทรัพย์ เพราะว่ามีความแม่นยำสูงและสามารถขายได้ตามเป้าหมายของราคา แต่ว่าวิธีที่จะซื้อและทำกำไรอยู่ที่จุดไหน ต้องติดตามในคลิปเรื่องนี้
ในบทนี่จะกล่าวเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ราคาซื้อขายสินทรัพย์ โดยจะแบ่งระดับสัญญาณความเร็วเป็น 3 ระยะคือ สัญญาณเตือนระยะต้นสำหรับคนที่ซื้อขายสินทรัพย์ที่หมุนไว พวก tfex ทอง ระยะปานกลางสำหรับนักลงทุนที่วางแผนซื้อขายรายวัน และระยะสุดท้ายสำหรับการลงทุนที่ต้องการสัญญาณที่แน่นอน นักลงทุนสามารถดูสัญญาณแล้วตัดสินใจในการลงทุนได้ทันที
ปริมาณการซื้อขายถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะยืนยันรูปแบบของเทรนได้ แต่ในการสังเกตุปริมาณซื้อขายในแต่ละวันนั้นทำได้ยาก เนื่องจากเราไม่ทราบว่าปริมาณซื้อขายขนาดไหนเรียกว่ามาก หรือเรียกว่าน้อยจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือมาช่วยยืนยัน โดยบทนี้จะกล่าวถึงเครื่องมือที่สำคัญในการยืนยันรูปแบบของราคา
ทฤษฎีที่นักลงทุนจำเป็นจะต้องรู้จักในการลงทุน เป็นหลักสำคัญของนักลงทุนทางเทคนิค ที่จะยืนยันรูปแบบของเทรนที่เกิดขึ้นในตลาด และยังสามารถบ่งบอกถึงสภาวะของตลาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่าอยู่ในสภาพไหน สามารถเข้าลงทุนได้เลยหรือไมา หรือจำเป็นต้องรอราคาก่อน
ถึงแม้ว่านักลงทุนจะแม่นสัญญาณการซื้อขายขนาดไหนถ้าไม่รู้จักการวางแผนการเงินที่ดี อาจทำให้นักลงทุนขาดทุนได้ เราจะวางแผนในตลาดอย่างไรให้เราไม่ขาดทุน แต่ได้กำไรอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะซื้อขายหุ้นทุกครั้งต้องมีการคำนวณสัดส่วนในการลงทุนเพราะว่าราคาที่เราซื้อขายแต่ละครั้งไม่เท่ากัน และโอกาสที่ได้กำไรและขาดทุนจะแตกกันไป
ทฤษฎี ElliottWave ถือว่าเป็นทฤษฎีที่สามารถหาเป้าหมายของราคาได้แม่นยำที่สุด ไม่มีทฤษฎีไหนที่จะแม่นยำมากกว่าทฤษฎีนี้ ในบทนี้จะกล่าวถึงรูปแบบโครงสร้างของ ElliottWave และการนับคลื่นแบบย่อย ทั้งรูปแบบ impulse และ correction การหาเป้าหมายของราคา การยืนยันรูปแบบคลื่น เมื่อศึกษาจบนักลงทุนจะสามารถนับคลื่นได้โดยคร่าวๆได้
เคล็ดลับการดูทิศทางของหุ้น ผู้บรรยายได้สรุปจากประสบการณ์การเทรดมามากกว่าสิบปี มาเป็นทริคเล็กๆ ที่นักลงทุนเมื่อมองดูกราฟแล้วไม่เกิน 10 วินาทีสามารถตัดสินใจได้เลยว่าจะทำการซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆหรือไม่ โดยใช้หลักของ ElliottWave ที่มีความแม่นยำสูง มาข่วยประกอบการณ์ตัดสินใจ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้นักลงทุนขาดทุนคือ ความผิดพลาดจากการเลือกหุ้นในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกลงทุนในหุ้นที่เป็นทิศทางขาลง หุ้นที่ไม่เป็นขาขึ้น (ราคาออกข้าง) หรือหุ้นที่เป็นหุ้นเด้ง ซึ่งจะทำให้ระยะในการรอค่อนข้างนานและราคาไม่ไปถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่กำหนด และราคาถึงเป้าตัดขาดทุนไวกว่าที่กำหนดไว้ ในบทนี้ผู้บรรยายจะยกตัวอย่างหุ้นจำนวนไม่ต่ำกว่าสิบตัวเป็นตัวอย่างว่าลักษณะไหนเป็นลักษณะหุ้นที่เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกับการลงทุน
ในบทนี้จะเป็นเรื่องของสถาวะจิตใจในการลงทุน ลงทุนอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความโลภหรือว่าความกลัว ทำอย่างไรเมื่อนักลงทุนได้กำไรมาก หรือควรทำอย่างไรเมื่อนักลงทุนขาดทุนหนัก เพื่อให้อยู่รอดในตลาดได้อย่างตลอด