ทฤษฎี Elliott Wave ได้ค้นพบโดย Ralph Nelson Elliott ในปี 1936 และต่อมาได้มี ผู้สืบทองทฤษฎี Elliott Wave อยู่ 2 ที่มีชื่อเสียง คนแรกคือ Robert Prechter และ อีกคนคือ Glenn Neely ทั้งสองคนมีมุมมองต่อ Elliott Wave ที่ต่างกัน เรื่องที่ต่างกันมากที่สุดเห็นจะเป็นเรื่อง Diagonal อันนี้
Robert บอกว่า Diagonal เป็นรูปแบบสามเหลี่ยม
Glenn บอกว่า ไม่ใช้เป็น Impulsion ตังหาก
เมื่อมุมมองที่ต่างกันจึงทำให้การรับรู้ของสังคมจึงต่างกัน ทั้งรูปแบบ Diagonal ไม่ว่าจะเป็น Leading หรือว่า Ending มีความหมายเหมือนกันคือเป็นรูปแบบสามเหลี่ยม แต่ Glenn มองว่า Diagonal ไม่ใช้สามเหลี่ยม เพราะว่าโครงสร้างภายในไม่เข้ากับนิยามสามเหลี่ยมที่ได้ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัดส่วนภายในสามเหลี่ยม และลักษณะของการเคลื่อนไหว ทำให้ Glenn ได้ตั้งรูปแบบใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า Terminal Impulsion
Trending Impulsion - คลื่น 1 ประกอบไปด้วย 5 คลื่นย่อย คลื่น 2 เป็นคลื่นปรับ (ส่วนมากจะมี 3 คลื่น) คลื่น 3 มี 5 คลื่น คลื่น 4 เป็นคลื่นปรับ (ส่วนมากจะมี 3 คลื่น) และคลื่น 5 จะมี 5 คลื่น
Terminal Impulsion – ทุกคลื่น (คลื่น 1 2 3 4 5) จะเป็น Corrective แต่ละคลื่นประกอบไปด้วย 3 คลื่นย่อย โดยปรกติแล้วคลื่น 1 3 5 จะเป็น Zigzag หรือ Complex correction คลื่น 2 มักจะเป็น Flat และ คลื่น 4 มักจะเป็น สามเหลี่ยม
ทฤษฎี Elliott Wave ได้ค้นพบโดย Ralph Nelson Elliott ในปี 1936 และต่อมาได้มี ผู้สืบทองทฤษฎี Elliott Wave อยู่ 2 ที่มีชื่อเสียง คนแรกคือ Robert Prechter และ อีกคนคือ Glenn Neely ทั้งสองคนมีมุมมองต่อ Elliott Wave ที่ต่างกัน เรื่องที่ต่างกันมากที่สุดเห็นจะเป็นเรื่อง Diagonal อันนี้
Robert บอกว่า Diagonal เป็นรูปแบบสามเหลี่ยม
Glenn บอกว่า ไม่ใช้เป็น Impulsion ตังหาก
เมื่อมุมมองที่ต่างกันจึงทำให้การรับรู้ของสังคมจึงต่างกัน ทั้งรูปแบบ Diagonal ไม่ว่าจะเป็น Leading หรือว่า Ending มีความหมายเหมือนกันคือเป็นรูปแบบสามเหลี่ยม แต่ Glenn มองว่า Diagonal ไม่ใช้สามเหลี่ยม เพราะว่าโครงสร้างภายในไม่เข้ากับนิยามสามเหลี่ยมที่ได้ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัดส่วนภายในสามเหลี่ยม และลักษณะของการเคลื่อนไหว ทำให้ Glenn ได้ตั้งรูปแบบใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า Terminal Impulsion
Trending Impulsion - คลื่น 1 ประกอบไปด้วย 5 คลื่นย่อย คลื่น 2 เป็นคลื่นปรับ (ส่วนมากจะมี 3 คลื่น) คลื่น 3 มี 5 คลื่น คลื่น 4 เป็นคลื่นปรับ (ส่วนมากจะมี 3 คลื่น) และคลื่น 5 จะมี 5 คลื่น
Terminal Impulsion – ทุกคลื่น (คลื่น 1 2 3 4 5) จะเป็น Corrective แต่ละคลื่นประกอบไปด้วย 3 คลื่นย่อย โดยปรกติแล้วคลื่น 1 3 5 จะเป็น Zigzag หรือ Complex correction คลื่น 2 มักจะเป็น Flat และ คลื่น 4 มักจะเป็น สามเหลี่ยม