Alternative rule

1. ราคา (Price) - หมายถึงความสูงของราคาจากตามแกนแนวตั้ง คือจากราคาจำนวนน้อยไปถึงราคาจำนวนมาก หรือจากมากไปสู่น้อย ทั้งในแนวโน้มขาขึ้นและแนวโน้มขาลง โดยแต่ละคลื่น เช่น คลื่น 1 คลื่น 3 และคลื่น 5 ต้องมีลักษณะของราคาที่แตกต่างกันตามอัตราส่วนฟิโบนาชี ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในบทถัดไป
2. เวลา (Time) – จะใช้เวลาในทิศแนวนอน ตั้งแต่เวลาน้อยที่สุดฝั่งซ้ายไปถึงเวลาปัจจุบัน โดยในแต่ละคลื่นจะมีระยะเวลาที่กำหนดว่าคลื่นเกิดขึ้นจะใช้เวลาได้เท่าไร่ ถ้าหากเลยมากกว่าเวลาที่กำหนดไปแล้วจะไม่ใช่ลักษณะของ Impulsion
3. อัตราส่วน (Severity) – อัตราส่วนของคลื่น 2 และคลื่น 4 ว่า มีอัตราส่วนฟิโบนาชี เท่าไร่เมื่อเทียบกับคลื่นก่อนหน้า
4. ความซับซ้อน (Intricacy) – จำนวนของคลื่นย่อยที่เกิดขึ้นในแต่ละคลื่น ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงความซับซ้อนในคลื่น
5. โครงสร้าง (Construction) – รูปแบบของโครงสร้างที่เกิดขึ้น เช่น รูปแบบ Flat Zigzag หรือ สามเหลี่ยม ในการเกิดรูปแบบ Impulsion จะเกิดรูปแบบของ correction ได้ชนิดเดียวเท่านั้นในคลื่น 2 หรือคลื่น 4 ไม่สามารถเกิดรูปแบบที่เหมือนกันทั้ง 2 คลื่นได้

   ในหนังสือ Mastering Elliott Wave โดย Glenn Neely ในบทที่ 5 ได้กล่าวไว้ว่า ในการเกิดรูปแบบของ Impulsion รูปแบบของ Alternation จะเกิดในคลื่น 2 และคลื่น 4 เท่านั้น โดยลักษณะของคลื่น 2 และคลื่น 4 ต้องมีหลักการ 1 ใน 5 ข้อตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จากการที่ผู้เขียนได้ศึกษาเพิ่มเติมกับ Glenn Neely ใน ค.ศ. 2021 Glenn ได้ให้ข้อคิดเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนแรกในการนับคลื่น หากยังไม่รู้ว่าลักษณะของคลื่นเป็นอย่างไร จำเป็นต้องมีอย่างน้อย 1 ข้อตามในหนังสือ แต่ว่าเมื่อเห็นรูปแบบคลื่นชัดเจนมากขึ้น ลักษณะของ Impulsion ที่เกิดขึ้น ต้องมีลักษณะตามกฎข้างต้นอย่างน้อย 3 ข้อขึ้นไป ถ้าหากเป็นไปได้ยิ่งมีจำนวนมากยิ่งดี จะได้หมดข้อสงสัยว่ารูปแบบที่เกิดขึ้นเป็น Impulsion หรือไม่และจะมีผลต่อการหาเป้าหมายในคลื่น 5 ลักษณะต่อไปนี้คือลักษณะของ Impulsion ที่เหมาะสม